แจ้ซ้อน…อารมณ์ออนเซน
ประเทศไทยใจเดียว คมฉาน ตะวันฉาย...เรื่อง/ภาพ kokkram@hotmail.com แจ้ซ้อน...อารมณ์ออนเซน “นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกซากูระที่ออกดอกบานสะพรั่งในสวนสาธารณะในสวนอุเอโนะของญี่ปุ่น”ข่าวจากสำนักข่าวไทยวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๐ ว่าไว้แบบนี้ แล้วเชื่อไหมว่า ในบรรดานักท่องเที่ยวที่ไปดูซากุระที่นั่น มีคนไทยไม่น้อยเชียวละ แล้วไทยละ.....!
บ้านเรามีพญาเสือโคร่ง ที่ดอกมันคล้ายคลึงกับซากูระ แต่ของบ้านเราเป็นสีชมพู ผมบอกเลยว่าสวยกว่าแค่สีสันมันก็จี๊ดจ๊าดบาดใจแล้ว เพียงแต่พญาเสือโคร่งเราเอามาปลูกตกแต่งตามสวนสาธารณะไม่ได้มันไม่ออกดอก เลยต้องปลูกตามดอย เวลามันออกดอก อย่างที่ภูลมโล มันก็สวยไปทั้งดอย สำหรับคนที่คิดว่าผมคงองุ่นเปรี้ยวนะสิ ไม่มีอย่างเขา ถึงมายกพญาเสือโคร่งมาสู้ ดอกไม้ที่ออกดอกสีขาวๆคล้ายกับซากูระของญี่ปุ่น และออกดอกช่วงเดียวกัน ก็ดอกเสี้ยวบ้านเรานี่ไง หรือใครจะเถียง...! ผมเคยเดินดั้นด้นไปเดินดอย นอนกลางดอยหลวงเชียงดาวเพื่อไปดูดอกเสี้ยวบานมาแล้ว คราวนี้ก็เลยนึกถึงดอกเสี้ยวบานที่บ้านป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งเป็นเสี้ยวป่า หมายถึงมันขึ้นของมันเอง เป็นไม้พื้นเมือง ไม้ท้องถิ่น เป็นพืชกลุ่มเดียวกับชงโคนี่แหละ จะขึ้นในป่าเบญจพรรณ ซึ่งป่าประเภทนี้พอหน้าแล้งมันจะผลัดใบ เจ้าดอกเสี้ยวนี่ก็เช่นกัน พอเข้าฤดูนี้จะทิ้งใบเกือบหมด แล้วออกดอกขาวโพลนไปทั่วบริเวณ สีสันสะอาดตา ทั้งต้นมีแต่กิ่งกับดอก


ถ้าผมเป็นผู้ว่าฯลำปาง แล้วต้องมาเปิดงาน ดอกเสี้ยวบานที่มันหรอมแหรมแบบนี้ทุกปี ผมจะอายมาก ผมจะสั่งให้ อบต.หรืออำเภอ เกณฑ์กันมาปลูกเสริมเลย กล้าไม้ก็ไปขอหน่วยเพาะกล้าไม้ที่เขาแจกเอามาปลูก ไม้ท้องถิ่น ไม่น่าผิดระเบียบอุทยานฯถึงไม่ออกดอกในยุคที่เราเป็นผู้ว่าฯ..แต่พอมันออกดอกหลังจากเราเกษียณไป เวลานักท่องเที่ยวมาดูความงามของมัน คนจะพูดได้ว่า เกิดเพราะสมัยเราสร้างมันขึ้นมา เหมือนภูลมโลที่เป็นสีชมพูทั้งป่า เขายังทำได้ เรามาสร้างหุบเขาดอกเสี้ยวทั้งหุบเขา สู้กับญี่ปุ่นหน่อยปะไร ทำไมเราจะทำไม่ได้ เพียงแต่เราไม่คิดทำ มันก็เลยไม่มีดอกไม้แบบอลังการณ์เท่าที่ควร

ถ้าผมเป็น รมต.กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมต.กระทรวงท่องเที่ยวฯ นอกจากจะบินไปประชุมที่โน่นที่นี่แล้ว ผมจะให้กรมการท่องเที่ยว จัดงบประมาณมาสนับสนุนจังหวัดให้ปลูกป่าดอกเสี้ยวขึ้นมา


แต่ที่เราพิเศษกว่า เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานสำหรับที่แจ้ซ้อนคือการต้มไข่ แค่ไปซื้อไข่ไก่ ใส่ชะลอมไม้ไผ่(ไม่ควรใช้ภาชนะพาสติก) เอาไข่มาแช่น้ำร้อน ๑๘ นาที ไข่ขาวจะเป็นวุ้น ไม่แข็ง แต่ไข่แดงจะเป็นก้อนนุ่มๆ ปรุงรสตามใจชอบ ใส่ซอส ใส่พริกไท อร่อยสุดๆ แต่เมนูอาหารที่ฮิตกันมากสำหรับที่นี่คือ ยำไข่น้ำแร่ ไปย่านนี้อย่าลืมสั่งมาลอง หรือร้อนๆ แบบนี้ ใครไม่อยากแช่น้ำแร่ร้อน เขาก็มีลำธารน้ำเย็นที่ไหลมาจากน้ำตกแจ้ซ้อน น้ำตก ที่มีน้ำทั้งปี ร้อนนักก็ลงแช่น้ำเย็น เบื่อก็แช่น้ำร้อน อยากนวดตัวเขาก็มีหมอนวดเส้น (ชม.ละ ๑๕๐ บาทเอง) คลายกล้ามเนื้อบรรเทาอาการเมื่อยล้า ในอุทยานฯ เขามีที่นอน ที่กางเต็นท์ มีร้านอาหารเสร็จสรรพ ไม่อยากนอนอุทยานฯ ก็มีรีสอร์ทใกล้กันหลายเจ้าบรรยากาศมันเหมาะกับการไปใช้ชีวิตชิลล์ ๆ มาก กลางวันร้อนอบอ้าว แต่พอค้างคืนต้องถึงขนาดห่มผ้านวม... นี่คือแจ้ซ้อน..!

เดี๋ยวนี้ไปง่าย ไม่ได้ว่ายากเย็นอะไร แต่ก่อนผมยังคิดว่าต้องมีรถส่วนตัวจึงสะดวกไปที่นี่ แต่เดี๋ยวนี้ง่ายมาก เครื่องบินลงลำปางวันละ๘ เที่ยว โทรให้รถสองแถวที่จะไปเมืองปานมารับที่สนามบินยังได้ แล้วให้เขาไปส่งถึงอุทยานฯ แจ้ซ้อน กลับวันไหนก็บอกเขา เดี๋ยวเขามารับ ค่ารถไม่เกิน ๑๕๐ บาทสบายๆ ที่ ททท.ลำปางเขามีเบอร์โทรท่ารถสองแถว โทรไปขอได้ที่ ททท.ลำปาง โทร.๐๕๔-๒๒๒-๒๑๔-๕ เขามีซากูระ เรามีดอกเสี้ยว เขามีออนเซน เราก็มี เขามีอากาศหนาว เรานี่กลางคืนยังหนาวที่แจ้ซ้อน แต่ที่เราเหนือกว่าคือ เรามีต้มไข่ ไทยแลนด์ นัมเบอร์วัน ..... ............................................................. @ เสาร์สวัสดี-กรุงเทพธุรกิจ – ๑๕ เม.ย. ๖๐@