ตรัง…ผึ่งลม ชมทะเลที่ราชมงคล
ประเทศไทยใจเดียว
คมฉาน ตะวันฉาย...เรื่อง/ภาพ
kokkram@hotmail.com
ตรัง...ผึ่งลม ชมทะเลที่ราชมงคล
ไปตรังมาก็หลายครั้ง...ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังเมื่อมุ่งหน้าไปหาดปากเมงก็หลายหน แต่ยอมรับจริงๆครับว่าไม่รู้เลยว่าข้างในสถาบันการศึกษาที่ใกล้หาดปากเมงแห่งนี้ เขามีแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปเที่ยวได้ด้วย ดังนั้นอย่าช้าครับ ตามผมมา....
ต้องขอบคุณ ผศ. ดร.อภิรักษ์ สงค์รักษ์ ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนา มิตรสหายที่พาผมไปเปิดหูเปิดตาว่าในตรังยังมีที่นี่อีกที่หนึ่งที่เข้ามาเที่ยวได้ เกินคาดกว่าที่เราคิดไว้ คือมีที่เที่ยวในนั้นมากมาย ชนิดที่อยู่เป็นวันๆ ยังได้
เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่ตัดตรงเข้าไป สองฝั่งทางเขาปลูกไม้ประดับริมทาง ต้นคูนบ้าง ต้นศรีตรัง หางนกยูง พอหน้าแล้งมันจะออกดอกสวยไปสองฝั่งถนน เข้าไปจะเห็นวงเวียนที่มีรูปหล่อพระโพธิสัตย์อวโลติเกศวร ที่จำลองมาจากองค์จริงที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไชยา สัญลักษณ์ของอาณาจักรศรีวิชัยตามชื่อสถาบันเขา โดดเด่นเป็นสง่าเป็นจุดเช็คอินหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะเห็นป่าชายเลนสองฝั่งทางที่ทางสถาบันเขารักษาไว้ได้ดีมาก
เส้นทางที่ตัดตรงจากประตูทางเข้ามาระยะทางเป็นกิโลเมตรนั้น ทั้งน่าอิจฉา นักศึกษาที่เรียนหรือพักหอพักที่นี่ ใครชอบออกกำลังกาย จะปั่นจักรยาน หรือวิ่ง หรือใครที่ชมชอบธรรมชาติคงดูนก ดูไลเคน ดูกล้วยไม้กันเพลินไปเลย เข้าไปจนสุดถนนจะเห็นหอสูงทำคล้ายประภาคาร เป็นกลางวงเวียน หอนี้สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์จากข้างบนได้ แต่ผมกลับชอบแนวป่าสนทะเลที่ร่มรื่น เดินทะลุป่าสนออกไปจะเห็นแนวกอผักบุ้งทะเลออกดอกสีม่วงจัดที่เหมือนกับไม่กลัวแดดกำลังสะพรั่งบาน ชายหาดกว้าง ยาวราว ๔ กม.นั้นช่างน่าหลงใหลและดูเป็นส่วนตัวมาก หัว-ท้ายชายหาดถูกปิดขวางด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่มีไม้เกาะอาศัยขึ้นบนเขาหินปูนจนน่าอัศจรรย์ ทะเลด้านหน้าเห็นเกาะอยู่ ๔-๕ เกาะ ไม่รู้ว่าชื่ออะไรกันบ้างรู้แต่ว่า สวยงาม โดดเด่น เวลาน้ำลงที่หาดกว้าง และยาวเหยียดแบบนี้ ถ้าได้มาพัก เย็นๆ จะวิ่งให้สะใจ
ชายหาดแห่งนี้บางส่วนถูกตั้งชื่อเป็นชายหาดวิวาห์ใต้สมุทร เพราะที่จังหวัดตรังเขาจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรก็มาจัดกันที่นี่นั่นเอง เขาเลยเจียดหาดส่วนหนึ่งตั้งชื่อนี้ไปเลย ตรงข้ามกับหาดวิวาห์ใต้สมุทรจะเป็นสะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน อย่างที่ผมบอกว่า สถาบันเขาเก็บรักษาป่าไว้ได้ดีมาก ป่าชายเลนเขาสมบูรณ์นับร้อยๆไร่ เดินชมธรรมชาติของพืชพันธุ์และสัตว์ทะเลป่าเลนได้สบายๆ
ที่เที่ยวภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่ไม่ควรพลาดคือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งมหาวิทยาลัยที่อยู่ติดทะเลแบบนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมเก่งและชำนาญเรื่องทะเลแน่นอน คณะที่โดดเด่นของที่นี่คือคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่การประมง เขาเลยมีกิจกรรมทางทะเลมากมายอย่างโครงการที่ ผศ.ดร.อภิรักษ์พยายามรณรงค์ก็คือการปลูกหญ้าทะเล ให้เป็นแหล่งอาหารของพะยูน และสร้างเครือข่ายอนุรักษ์พะยูนพอพะยูนเข้ามากินหญ้าทะเลก็ให้ชาวประมงช่วยกันดูแลพะยูนให้อยู่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองตรัง ทำธนาคารปูม้า ให้แพร่หลายไปในแหล่งปูม้าของตรัง คือสรุปง่ายๆว่า นอกจากมหาวิทยาลัยนี้เขาจะทำให้ทะเลและสภาพแวดล้อมในทะเลสมบูรณ์แล้ว เขายังแคร์อาชีพของชาวบ้านที่หาอยู่หากินกับทะเลด้วย
ภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเขาจะจัดเน้นหมุนเวียนไปเรื่อย เต่าทะเล ม้าน้ำ ดาวทะเล ฉลาม วาฬ อะไรก็ว่าไป แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ก็คือตู้ปลาทะเลและการจำลองชีวิตใต้ทะเลมาจัดแสดงกว่า ๒๐๐ ตู้ เดินดูสบายๆไม่ต้องรีบร้อน เพราะถ้าเดินทะลุพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำออกไปด้านหลัง จะเป็นทางเชื่อมไปยังส่วนจัดแสดงแมวน้ำ ซึ่งทั้งครูฝึก ทั้งคนจัดแสดงก็เป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยนี้ทั้งนั้น การแสดงนี้ได้ใจเด็กๆและผู้ปกครองอย่างมาก เต็มทุกรอบจัดแสดงว่างั้นเถอะ
สิ่งที่เป็นผลงานที่น่าชมเชยของมหาวิทยาลัยแห่งนี้คือการสร้างชุมชนต้นแบบ บ่อหินฟาร์มสเตย์ ที่อยู่กันคงละฟากคลองกับมหาวิทยาลัย ที่นี่เป็นชุมชนต้นแบบที่ทางมหาวิทยาลัยพยามยามผลักดันและประสบความสำเร็จได้รางวัลมากมาย ที่นี่เขาสร้างชุมชนให้เป็นชุมชนต้นแบบเรื่องการทำกินที่อนุรักษ์ถิ่นทำกินไปด้วย เขาเลี้ยงกระชังปลากัน ทำบ้านชายน้ำให้เป็นที่พักแบบฟาร์มสเตย์ เปิดรับห้างร้าน บริษัท ชุมชนที่สนใจ มาร่วมทำกิจกรรม ปลูกหญ้าทะเลสู่ท้องทะเลตัง เพื่อคืนแหล่งอาหารให้พะยูน ที่บ่อหินฟาร์มสเตย์นี่ผมขอติดไว้ก่อน เพราะผมยังไม่ได้ไปดูเป็นจริงเป็นจัง เพียงแวะไปเยือนไม่กี่ชั่วโมง ไว้ให้ได้ไปพักแรมสักครั้งจะเห็นบรรยากาศที่ดีกว่านี้ ท่านที่สนใจอยากทำ CSR แนวอนุรักษ์ธรรมชาติ ติดต่อไปที่พี่บรรจง โทร.08-1892-7440
นอกจากใน ในวิทยาเขตเขายังจัดวางตำแหน่งต้นไม้ใบหญ้า มีสระน้ำปลูกบัวไว้ดูร่มรื่น นอกจากชายทะเล เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สภาพแวดล้อมที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้สบายๆนี้ ที่นี่เขายังมีที่พัก ไว้ให้นักศึกษาที่เรียนเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจการโรงแรมได้ทดลองทำงานจริง ซึ่งถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยว ได้พักในที่พักที่มาตรฐาน ในพื้นที่ที่ไม่พลุกพล่าน มีธรรมชาติทางการท่องเที่ยวครบ ซ้ำยังเป็นผลดีแก่เด็กๆลูกหลานเราที่เขาต้องการหาประสบการณ์ ผมว่าก็น่าลองให้โอกาสเด็กๆ โดยการไปพักใช้บริการของสถาบัน หรือใครจะกางเต็นท์พักแรมหรือจะจัดค่ายลูกเสือในสวนสนริมทะเล เขาก็มีสถานที่ให้เสร็จสรรพ
ต้องขอบคุณ ผศ. กฤษฎา พราหมณ์ชูเอมรองอธิการบดีประจำวิทยาเขตตรังและผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยทุกระดับที่มองการณ์ไกล เก็บรักษาธรรมชาติบนบก เสริมสร้างความสมบูรณ์ของท้องทะเลและไม่ละเลยชุมชน ความรู้ต้องเจือจุนสังคม สมกับเจตนารมณ์การสร้างมหาวิทยาลัย สงสัยเรื่องอะไรในสถาบันที่น่าเที่ยวแห่งนี้ลองโทรไปสอบถามที่ โทร.0-7520-4051-5
ไปเชียงรายเห็นมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงว่าสวยแล้ว มาที่เชียงใหม่ เห็นทัวร์จีนไปยืนถ่ายรูปกับป้ายมหาวิทยาลัยราวกับลูกรับปริญญา ถ้าได้ลองมาใต้เชิญที่ตรังที่มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยสวยๆแบบนี้ ใครจะพลาดได้ในเมื่อ...ของเขาดีจริงๆ...
.......................................................................
@ เสาร์สวัสดี-กรุงเทพธุรกิจ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๙@