๑๑ นาฬิกา มุ่งหน้าจีน # ตอน 1- 4 จากไทยไปซีอาน
๑๑ นาฬิกา มุ่งหน้าจีน (ซีอาน-จางแย่-ตุนหวง-อูรูมูฉี-ปู้เอ้อจิน) # ตอน 1 - 4 ...จากไทยไปซีอาน ๑๘-๒๗ ก.ย.๒๕๕๘ _________________________________________________ ........ทริพนี้เป็นทริพที่ผมชดเชยเมื่อต้นปี ๕๘ ที่ต้องรักษาตัวเองจากการผ่าตัดดวงตา ถึง ๒ เดือน ทีแรกหมายมั่นปั้นมีว่าจะไปเสฉวน แต่ สำรวย แฟนเพจที่มาทักทายกันในเพจ ตามประสาคนคอเดียวกัน บอกมาในเพจว่า...ไปจางเย่ -ตุนหวงกับหนูดีกว่า....ตุนหวงนะคุ้นอยู่เพราะเห็นในสารคดีบอกแต่จางเย่ อะไรวะจางเย่...ยังไม่ได้รับปาก แต่แอบมาเสิร์ชหารูป หาข้อมูล .......เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย โลกนี้มีแบบนี้แน่เหรอ รีบแจ้งสำรวยไปด่วน.....ไปด้วยคน.....โชคดีงานนี้สำรวยเป็นโต้โผ เราแค่ร่วมทริพ มีหน้าที่จ่ายเงินอย่างเดียว นอกนั้นก็รอ สำรวยเรียกเอาเอกสารเป็นระยะๆ งานนี้มีผู้ร่วมเดินทาง ๖ คน มีผม สำรวย นนท์ เต๋า เบญ ต๋อย ๔ คน สำรวย-ต๋อย-นนท์ เขาเที่ยวด้วยกันจนชิน ทั้งหมดนี้มีใหม่คือเบญ เต๋า และผม ที่เป็นมือใหม่สำหรับกลุ่มนี้ โชคดีที่มี เบญ......สาวน้อยที่ผมกระเซิงเวลานอน เป็นปากแทนเราทุกอย่างในทริพนี้ เพราะเบญ ไปเรียนที่นานกิง(ใกล้ปักกิ่ง) จนจบปริญญา ถ้าพูดไม่ได้ ก็บ้าละ...ส่วนผมแม้จะใหม่กับกลุ่มนี้ แต่เขี้ยวลากดินกับการแบกเป้ไปตะลุยนอกบ้านผ่านเมืองมาพอสมควร การเดินทางไปจีนคราวนี้ก็เป็นครั้งที่ ๔ จึงไม่ได้แปลกหูแปลกกลิ่นอะไร กับการไปประเทศนี้....ผมใช้เวลาเตรียมตัวแบบชิลๆมาก ไม่ได้อะไรมาก ทยอยเตรียมตัวทีละอย่าง สองอย่าง พอถึงวันเดินทางก็พร้อมสรรพ เป้พร้อม(เสื้อผ้า-ช้อน-จาน-แก้วน้ำ-อุปกรณ์ไฟฟ้า พร้อม กล้องพร้อม ร่างกายพร้อม แล้วจะรออะไร เดินทางสิครับคุณ...
ก่อนเดินทาง มารู้จักจุดหมายปลายทางของเรานิดหนึ่งเพราะเราจะอยู่ที่นานเหมือนกัน มลฑลซานสซี ที่ตั้งของซีอานก่อนเลย ผมไปเอามาจากวิกิ พอได้เป็นเค้าลาง ดังนี้ครับ...

ทีนี้มาดูแค่เมืองซีอานมั่ง...

รู้จุดหมายปลายทางแล้ว เผื่อว่าหลุดหายไป ญาติพี่น้องจะได้ไปตามถูก ฮ่าฮ่าฮ่า ทนี้มาร่วมเดินทางกับผมซะที... ....๑๘ ก.ย.๕๘..วันเดินทาง มุ่งหน้าสู่ซีอาน .....เจอกันที่สนามบิน กี่โมงไม่แน่ใจ เข้าใจว่าเป็นบ่าย น่าจะเป็นบริการของหางแดง พอได้เวลาเราก็บินไปซีอาน มลฑลซานซี (ดูแผนที่จีนประกอบจะเห็นภาพ) ไปถึงก็ ๒-๓ ทุ่มมั้ง ไม่เห็นอะไรหรอกครับ มันมืดแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือรีบหารถเข้าเมือง ไปโรงแรมที่จองไว้ เราไปกัน ๓ คน ต้องใช้แท็กซี่ ๒ คัน วิ่งตามกัน ซ้ำแทกซี่จีนก็หลงทางด้วย พาไปไม่ถูก ต้องจอดหา จอดโทรถามกันทำไงละทีนี้ มีคนพูดจีนได้คนเดียว...ใบ้แดกซิครับ แต่ก็ทุลักทุเลตามประสาแบกเป้ท่องโลก ช่วงที่รถแล่นผ่านเมืองก็เห็นหอกลอง หอระฆัง(มั้ง) ติดไฟอยู่ จะกดชัตเตอร์ก็ไม่ทัน ได้แต่เสียดาย ตอนนี้ขอหาโรงแรมก่อนกว่าจะหาเจอก็เดินมั่งอะไรมั่ง ผมไปไหนแบกเป้ตลอดก็สะดวกดี มาเที่ยวแบบนี้มิตรสหายบางคนใช้กระเป๋าลากน่าจะเหนื่อย ฟุตบาทในจีนก็ใช่ว่าจะเรียบ พอไกลลากๆเข้ามันก็ไม่ค่อยคล่องตัว ( ได้ประสบการณ์ท่องโลกอีก ๑ ข้อคือ ถ้าไปท่องโลกแบบแบ๊กแพ๊คใช้เป้สะพายหลังดีที่สุด กระเป๋าลากที่โครงสร้างแข็งๆ จะไม่สะดวกหลายอย่างเลย ผมถึงเข้าใจว่าทำไมเวลาฝรั่งมาเที่ยวแบบสมบุกสมบันเขาถึงไม่ใช้กระเป๋าลาก แต่แบกเป้ทั้งนั้น พอมาเจอกันตัว...เออ...จริงของฝรั่งมัน เขาเที่ยวแบบนี้มาก่อนเรา ย่อมมีประสบการณ์) ......พอมาเจอที่พัก เอาของเข้าที่พัก ก็เลยรีบออกไปดูหอกลอง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คกลางเมืองซีอาน ที่ตอนขามา นั่งแท๊กซี่ผ่านยังเหลียวกลับคอแทบหัก สวยงามจริงๆ พอได้มายื่นถ่ายภาพเต็มๆ ก็คุ้มค่า.....ซีอาน สมเป็นเมืองหลวงเก่า แค่หอกลองก็สวยแล้ว...นี่เป็นประทับใจแรกที่พานพบที่ซีอาน

๑๑ นาฬิกามุ่งหน้าจีน # 2 ถนนคนเดินซีอาน ....ก่อนจะพาท่านผู้อ่านไปดูสาวจีนแก้ผ้าอาบน้ำนอกเมืองซีอานในวันรุ่งขึ้น อยากเล่าถึงบรรยากาศถนนคนเดินที่ซีอานก่อน .....ถนนคนเดินที่ซีอานก็เหมือนตลาดในบ้านเรานะแหละ ไม่ได้ต่างกันเลย เขาใช้ฟุตบาทริมทางระหว่างหอกลองที่เป็นวงเวียนที่ผมเอารูปให้ดูก่อนหน้า กับหออะไรอีกแห่ง่ก็ไม่รู้ ใกล้ๆกัน ระยะทางพอดีเดิน ลักษณะไอ้สองหอนี่คล้ายกัน เพียงแต่อีกหอมันไม่ได้อยู่กลางถนนเป็นวงเวียนเหมือนรูปที่ให้ดูก่อนนี้ ที่ตลกคือ พวกเราอุตส่าห์รีบเอาของเข้าที่พักแล้วนั่งรถมาที่หอนี้หมายมั่นปั้นมือว่าจะถ่ายรูปให้สนุก พอมาถึง ก็รีบลงไปถ่ายรูป กำลังจะถ่ายรูปกัน...ไฟที่เปิดประดับหออยู่ก็ดับพรึ่บ......อ้าว....ไอ้เอี้ย....ไม่ทันทำอะไรเลย ขนาดผมรีบๆ ยังกดไปได้ไม่ถึง ๕ รูป ไม่ต้องพูดถึงสาวๆร่วมคณะว่าจะทันไหม ที่แท้ เราไปถึงดึก ๔ ทุ่มแล้วมั้ง ก็สมควรแก่เหตุที่เขาจะดับไฟ เราก็เลยเดินเตร็ดเตร่ ดูร้านรวงที่ทยอยกันเก็บร้านแทนการถ่ายรูปหอ .....เท่าที่เห็นของก็เหมือนขายในถนนคนเดินทั่วไป ของกิน ขนมขบเคี้ยว อุปกรณ์โทรศัพท์ที่ผลิตในจีน ผลไม้ คือก็ถนนคนเดินธรรมดานี่แหละ ส่วนใหญ่เห็นเป็นคนจีนมาเดินกันเองมากกว่าเป็นนักท่องเที่ยว มีร้านขนม ๓-๔ ร้าน บางอย่างคล้ายขนมเค้ก ที่เห็นหน้าตาก็น่าอร่อย พอเอามาลองชิมดู.....ต้องบอกด้วยใจจริงเลยครับว่า...รสชาตินั้น....ส้นตีนมาก....ถุยทิ้งแทบไม่ทัน ดีที่เจ้าของร้านไม่ด่าเอา เพราะเราถุยทิ้งต่อหน้าในคำแรกที่ลิ้นสัมผัส ไม่อร่อยอย่างแรงบอกเลย ขนาดว่าผมเป็นพวกลิ้นจระเข้แล้วนะ แต่เรื่องรสชาติอาหารนี่ว่ากันไม่ได้ แล้วแต่รสนิยมคนกิน คนจีนเขาอาจชอบแบบนี้ เขาก็ทำแบบนี้ ไอ้เราดันไม่ชอบเอง เขาไม่กระทืบเอาก็บุญแล้ว...แต่ผมว่าอาการถุยต่อหน้าร้าน เขาอาจไม่ถือสานะ เพราะเห็นคนจีนมากินของกินหน้ารสเข็นที่เชียงใหม่ เขาก็ถุยตรงนั้นแบบหน้าตาเฉย แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร ในขณะที่ยัยแม่ค้ายืนเท้าเอวมองด้วยสายตาอยากด่าเต็มประดา นี่จึงอาจจะเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอีกอย่าง.... ...อยากให้ท่านผู้อ่านตั้งข้อสังเกตว่า...ในรูปสุดท้ายถนนคนเดินหรือในเมืองซีอานเอง จะเห็นคนจีนเชื้อสายมุสลิม ผู้ชายจมูกโด่งๆ แม้ค้าโบกผ้า สวมฮิญาบ...อาหารหน้าตาแบบอาหรับปรากฏให้เห็น ใช่แล้วครับ ย่านตรอกอะไรสักในซีอาน ใกล้ๆหอกลองนีแหละ จะเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิม มีมัสยิดเก่าแก่ด้วย แต่ผมไปมืดไม่ได้ไปดูมัสยิดและไม่มีโปรแกรมไปดูด้วย.... มุสลิมมาจากไหน.....มุสลิมในซีอานเป็นผลพวงมาจากการค้าขายในอดีตนั่นเอง อย่าลืมว่าซีอานเป็นต้นทางของเส้นทางสายไหม ๔ เส้นทาง การค้าขายกนึ่งที่รุ่งเรืองคือเส้นทางไปเปอร์เซีย แล้วค้าขายไม่ใช่เราไปขายเขาอย่างเดียว เขาก็มาค้าขายกับเราด้วย การตั้งหลักแหล่งของชาวมุสลิมในซีอาน ก็มาจากการค้าขายในคราวเส้นทางสายไหมนี่เอง... ...สรุปว่าแค่ออกไปเดินดูร้านรวงที่ทยอยเก็บของ ไม่ได้มีอะไรน่าทัศนา แต่ก็พอได้รู้ว่า กลางคืน คนซีอานเขามีอะไรทำกัน ...พรุ่งนี้ผมจะพาไปดูสาวจีนแก้ผ้าอาบน้ำ ดูกันให้จั๋งหนับไปเลย...







